Game Mode

  • Normal โหมดปกติ เป็นโหมดเริ่มต้นสำหรับทุกคน
    • Veteran เป็นส่วนขยายของโหมด normal โดยในโหมดนี้มอนสเตอร์จะเกิดมากขึ้นเป็นสองเท่า แต่ส่วนอื่นๆของเกมนั้นเหมือนเดิม สามารถเปิด หรือปิดได้ตลอดเวลาที่เล่นโหมด normal
  • Elite โหมดความยากพิเศษ โหมดนี้จะ unlock เมื่อเราฆ่าทำเควสเนื้อเรื่องเควสสุดท้ายของโหมด normal แล้วเท่านั้น โดยถ้าเราเริ่มเล่นในโหมดนี้ เนื้อเรื่อง/เควสทุกอย่างจะเริ่มต้นใหม่หมด แต่เลเวลตัวละคร ของสวมใส่ และชื่อเสียงนั้นจะต่อเนื่องมาจากโหมด normal
  • Ultimate โหมดความยากสูงสุดของเกม จะ unlock เมื่อเราทำเควสเนื้อเรื่องเควสสุดท้ายของโหมด Elite

อย่างในก็ตาม มอนสเตอร์ใน Grim Dawn นั้นจะมีเลเวลขึ้นกับตัวเรา “จนถึงค่าๆหนึ่ง” เช่น มอนสเตอร์ใน พื้นที่เริ่มต้นของโหมด normal ครั้งแรกที่เราจะจะมีเลเวล 1-3 แต่ถ้าเรากลับไปเดินแถวนั้นตอนเราเลเวล 15 เราก็จะพบว่ามอนสเตอร์พวกนั้นมีเลเวลสูงขึ้นเป็น 14-17 แต่ถ้าเรากลับมาตอนเราเลเวล 50 เราก็จะพบว่ามอนสเตอร์พวกนั้นมีเลเวลตันอยู่ที่ราวๆ 25-30 เท่านั้น (ตัวเลขสมมตินะครับ :))

 

Attributes

2016-04-09_23-27-59.png

ค่าพลังของตัวละครของเรา มีทั้งหมด 5 ค่า แต่เราเลือกอัพได้แค่สามค่า (physique,cunning,spirit) อีกสองค่าที่เหลือ (health,energy) หาได้จากไอเทม / สกิล และ mastery ครับ

    • Physique ทุกๆ 1 ค่าจะเพิ่ม 3 health , 0.05 health regen และ 0.4 defensive ability (DA) และยังเป็นค่าที่จำเป็นในการใส่เกราะหนัก (Heavy Armor) ด้วยครับ
    • Cunning ทุกๆ 1 ค่าจะเพิ่ม physical damage 0.35% , pierce damage 0.33% , bleed และ internal trauma damage 0.36% และ 0.4 offensive ability (OA) (ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าเหล่านี้ในหัวข้อต่อๆไปนะครับ) Cunning นี้เป็นค่าที่จำเป็นในการใส่ดาบมือเดียว ปืน และธนูครับ

 

  • Spirit ทุกๆ 1 ค่าจะเพิ่ม magical damage 0.40% , magic duration 0.43% , 2 energy , 0.01 + 0.25% energy regen และยังเป็นคาที่จำเป็นในการใส่ชุดนักเวทย์ (Caster Armor) และเครื่องประดับต่างๆ (ring , amulet) ครับ
  • Health เลือดของตัวละครของเรานั่นเองครับ
  • Energy เป็นค่าพลังที่เราต้องใช้ในการร่ายเวทย์และใช้ความสามารถต่างๆ ครับ

Combat Stats

    • Offensive Ability (OA) มีผลกับการที่การโจมตีของเราจะโดนเป้าหมายหรือไม่ และยังมีผลกับอัตราการคริติคอลของตัวเราด้วยครับ โดยจะทำการเปรียบเทียบกับค่า Defensive Ability (DA) ของเป้าหมาย ถ้าเรามีค่า OA มากกว่า DA ของเป้าหมายมากๆ เราก็จะมีโอกาสโจมตีโดน และมีโอกาสคริติคอลที่สูงมากขึ้นครับ
    • Defensive Ability (DA) กลับกันกับ OA คือถ้าเรามีค่า DA นี้มากกว่าค่า OA ของศัตรูที่โจมตีเรามากๆ เราก็จะมีโอกาสที่จะหลบการโจมตีของศัตรูได้ และโอกาสของศัตรูที่จะโจมตีคริติคอลกับเรานั้นก็จะต่ำลงมากเช่นกัน
    • Damage Per Second เป็นค่า damage ต่อวินาที ซึ่งคำนวณจากสกิลที่เราผูกไว้กับ mouse ปุ่มซ้าย และ mouse ปุ่มขวาของเราครับ เราสามารถดูรายละเอียดของค่านี้ได้จากใน Character Tab II ครับ (เดี๋ยวโพสท์หน้าจะโพสท์ให้ดูอีกที) ซึ่งแน่นอน attack speed จะมีผลกับค่านี้มากๆ ดังนั้นสำหรับตัวละครบางสาย ที่เน้นใช้สกิลหมู่หลายๆสกิล ค่านี้อาจจะวัดอะไรไม่ได้ครับ

 

  • Armor Rating ค่าเกราะทั้งหมดของตัวละครของเราครับ ซึ่งการคำนวณ damage ของเกมนี้จะแตกต่างกับเกมอื่นๆอย่างมาก เพราะเกมจะไม่ได้คิด damage ที่เราได้รับจากเกราะที่เรามีทั้งหมด แต่จะ”สุ่ม” พื้นที่บนตัวเราที่จะโดนโจมตี แล้วจะคิด damage ที่เราจะโดนจากเกราะที่เราใส่ไว้ในส่วนนั้นๆครับ เช่นถ้าสุ่มได้หัว ก็จะเอาค่าเกราะของหมวกที่เราใส่ไปคิดเท่านั้นครับ เกราะส่วนอื่นๆจะไม่มีผลเลยกับการโจมตีนี้ โดยอัตราส่วนของการสุ่มแต่ละส่วนเป็นดังนี้ครับ
    • Head: 15%
    • Shoulders: 15%
    • Torso: 26%
    • Arms: 12%
    • Legs: 20%
    • Feet: 12%

 

การคิดเกราะแบบนี้ทำให้เราจะต้องพยายามอัพเกรดชุดของเราทุกๆส่วนตลอดเวลาครับ เพราะว่าถ้าเราใส่กางเกงเลเวลต่ำๆ เกราะน้อย แต่ค่า attribute ดี ก็จะทำให้เรามีความเสี่ยงที่จะโดนโจมตีแบบแรงมากๆได้ถ้าโดนสุ่มโจมตีช่วงขาพอดี

ตอนนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ โพสหน้าผมจะมาพูดถึง damage type ต่างๆ ซึ่งมีเยอะมากในเกมนี้ รวมถึงค่า resistance ด้วยครับ 🙂

Leave a comment